วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

นำสะอาด ช่วยอาการผิวขาดน้ำ

"ผิวขาดน้ำ" เป็นสัญญาณอันตรายของปัญหาผิวหน้าขาดความกระชับ และปัญหาริ้วรอย ถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยวดูแก่ก่อนวัย ต้องรู้จักดูแลผิวหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ !!!

แถมช่วงนี้อากาศก็เริ่มที่จะเย็นลงแล้วด้วย ดังนั้นสาว ๆ ทั้งหลายก็ควรจะเริ่มดูแลผิวหน้าของตัวเองเพื่อสู้กับอากาศที่เย็นลงได้แล้วนะคะ

ทั้งนี้หากสาว ๆ คนไหนสังเกตเห็นว่า มีเส้นปรากฏเป็นริ้ว ๆ บนแก้มนั้น เดาได้ว่าผิวของคุณกำลังขาดน้ำ อันนี้ถือเป็นสัญญาณอันตราย เพราะจะนำไปสู่ผิวที่อ่อนแอแพ้ง่าย ขาดความชุ่มชื้น และสูญเสียความแน่นกระชับ จนทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ทางที่ดีควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8 แก้ว หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

เพราะนอกจากการบำรุงผิวตามปกติแล้ว ในแต่ละวันก็ควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเติมความชุ่มชื่นให้ผิวพรรณ รวมไปถึงพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เพียงเท่านี้อาการ "ผิวขาดน้ำ" ก็จะไม่มาย่ำกรายแล้วค่ะ

อันตรายจากไม้จิ้มฟัน

เมื่อเวลาเศษอาหารติดตามซอกฟัน สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงก็คือ *ไม้จิ้มฟัน* แต่คุณจะรู้หรือไม่ว่าการใช้ไม้จิ้มฟันไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้เกิดอันตรายกับตัวเราได้เช่นกัน

ไม้จิ้มฟันเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้มาตั้งแต่โบราณ ส่วนมากจะทำมาจากไม้ แต่ในปัจจุบันเป็นพลาสติกก็มี ไม้จิ้มฟันส่วนมากจะมีลักษณะเป็นแท่งกลมเรียวแหลมเล็ก หน้าที่ของมันก็คือใช้เขี่ยเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน แต่มันไม่สามารถทำความสะอาดได้ถึงขนาดเอาคราบอาหารหรือคราบพลัด (Plaque) ซึ่งเป็นตัวการของการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบออกได้

ในการทำความสะอาดซอกฟันหหรืส่วนด้านข้างของฟัน ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใช้ ไหมขัดซอกฟัน แปรงซอกฟัน หรือน้ำยาบ้วนปาก

ส่วนมากการใช้ไม้จิ้มฟัน หลาย ๆ คนยังใช้ผิดวิธี คือ เราจะใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเอาเศษอาหารออกโดยการผลักไม้จิ้มฟันให้ผ่านซอกเหงือกไป เพราะความที่ไม้จิ้มฟันมีลักษณะที่เรียวเล็กที่ปลายและจะใหญ่ตรงโคน เมื่อผลักเข้าไปในซอกฟันมาก ๆ ไม้จิ้มฟันจะเข้าไปเบียดให้ยอดเหงือกถูกกดต่ำลง เมื่อใช้ไม้จิ้มฟันทุกวัน ก็จะทำให้ยอดเหงือกที่เคยแหลมปิดซอกฟัน จะถูกเบียดให้ต่ำลงและมีช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้นนั้นจะทำให้เศษอาหารติดได้ง่ายกว่าเดิม จึงทำให้ขาดความสวยงามของฟันไป

การใช้ไม้จิ้มฟันที่ถูกต้อง
**ควรใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ยเศษอาหารมากกว่าการจิ้มเข้าไป

**เวลาเขี่ยเศษอาหาร ควรเขี่ยจากเหงือกไปตามซี่ฟัน
**ไม่ควรทิ่มไม้จิ้มฟันจากด้านหน้าฟันทะลุไปถึงด้านหลังฟัน
**ควรใช้ไม้จิ้มฟันที่สะอาด เพราะไม้จิ้มฟันที่มีการจำหน่ายในท้องตลาด บางชนิดไม่มีการฆ่าเชื้อที่ถูกต้อง อาจมีการติดเชื้อได้ถ้าใช้ไม่ระวัง

ถึงแม้การใช้ไม้จิ้มฟันจะมีประโยชน์ก็จริง แต่ในขณะเดียวกันถ้าเราใช้ไม่ถูกต้องก็อาจจะเกิดอันตรายกับตัวเราได้เช้นกัน เราจึงควรจะใช้อย่างถูกวิธีเพื่อสุขภาพของเรา.....

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วิธีทำให้หน้า...หายไหม้



...อากาศร้อนมาก แดดก็จัด อาจทำให้ผิวหน้าสวย ๆ เกิดไหม้ได้ตลอดเวลา วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีแก้แบบธรรมชาติมาฝากกัน....
• 1. ชาดำ 1 ถุง
• 2. องุ่นแกะเม็ดออก
• 3. แตงกวา ครึ่งลูก
• 4. ผงฟู 1 ช้อนชา
วิธีทำ
• ขั้นตอนแรก
ต้มน้ำให้เดือดแล้วเทใส่แก้ว จากนั้นนำถุงชาจุ่มลงไป เหมือนกับเวลาชงชา ปล่อย ทิ้งไว้ให้เย็น นำผลองุ่นหลาย ๆ ผล แตงกวา และ ผงฟู 1 ช้อนชาไปปั่นให้ละเอียดรวมกัน แล้วนำมาใส่รวมกับน้ำชา พักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ค่อย ๆ คั้นน้ำชาออก เสร็จแล้วนำกากของส่วนผสมทั้งหมดมาแปะผิว บริเวณที่ผิวไหม้
ถ้าใช้ไม่หมดให้เก็บแช่ตู้เย็นไว้ ทำเป็นประจำติดต่อกัน 4 วัน หน้าไหม้ ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ถ้าหากเกิดอาการคันหรือแพ้ ควรเลิกใช้ทันที ...

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551

Colosseum of Rome

สนามกีฬากรุงโรม: Colosseum of Rome




สถานที่ตั้ง : กรุงโรม ประเทศอิตาลี

ปัจจุบัน : สามารถเข้าเยี่ยมชมได้




สนามกีฬากลางแจ้งแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงของโลกอย่างหนึ่ง เป็นอนุสรณ์ที่ ใหญ่โตของอาณาจักร โรมันสมัยโบราณสร้างขึ้นในระหว่างสิพ.ศ. 615 ถึง 623
(ค.ศ. ที่ 72 ถึง 80)




ตัวสนามสร้างมีรูปเป็นตึกวงกลมก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ วัดโดยรอบยาว 527 เมตร สูง 57 เมตร มี 4 ชั้น ภายในมีอัฒจรรย์สำหรับคนนั่งดู จุคนดูประมาณ 80,000 คน ใต้อัฒจรรย์ และใต้ดินมีห้องสำหรับขังนักโทษที่รอการประหารชีวิต และสิงโต หลายร้อยห้อง ใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษ ต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดเอาชนะ ฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าได้ก็รอดชีวิตไป หรือ ไว้ใช้เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบของบรรดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเอง ยิ่งถ้าต่อสู้กัน จนถึงสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตาย ก็จะได้รับเกียรติอย่างสูงเพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมและยกย่องกันมากทปีๆธิหนึ่งต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน




สนามกีฬาแห่งนี้จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรโรมันโบราณ แต่เมื่ออาณาจักรโรมันเสื่อมลงชก็ถูกข้าศึกทำลายหลายครั้งหลายหน



ในปัจจุบันยเหลือแต่ซากโครงสร้างอันใหญ่โตมโหฬารไว้ให้ชม

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

กีฬาสี 2551

กีฬาสี 2551 วันที่ 21-22 สิงหาคม

^___________^




















วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551

My friend 5/7







เต้นโปงลางกาน โย๋ๆๆ











วันที่ 29 กรกฎาเป็นวันภาษาไทย เราอยู่ ม.5/7 ก็เต้นโปงลางกันอ่า เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เต้นอ่านะ 555+
คิดแล้วขำตัวเองสุดๆ มากมายจัง
นี่ก็เป็นรูปที่เราถ่ายก่าเพื่อนๆในกลุ่มอ่าจร้า ถ้าอุบาทรก็โทดด้วยนะ พยายามดูให้มันสวยก็แว้วกัน คิคิ

^_________________^






วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ข้อดีของการสอบตก VS ข้อเสียของการสอบผ่าน

ข้อดีของการสอบตก
1. เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันภายในจิตใจของเรา เวลาเราได้คะแนนน้อย เราจะได้ไม่เกิดอาการซึมเศร้าจนเกินไป
2. เป็นการประเมินตัวเองในระดับหนึ่ง ทำให้เราทราบถึงข้อบกพร่องของตัวเอง จะได้แก้ไขได้ตรงจุด
3. การซ่อม ถือว่าเป็นการทบทวนการทำข้อสอบของเราอีกครั้งหนึ่ง จะได้เป็นอุทาหรณ์ แล้วเราจะได้ไม่พลาดอีก หรือถ้าให้ทำงานอื่นส่ง ก็เพื่อเป็นการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของเราให้ดีขึ้น
4. คิดไว้เสมอว่า พลาดตอนนี้ ดีกว่าไปพลาดตอนสอบแอดมิชชั่น (จริงไหม)
ข้อเสียของการสอบผ่าน
1. ถ้าเราไม่เคยตกเลยสักครั้ง เราก็จะไม่มีภูมิคุ้มกันความโศกเศร้าเสียใจ ซึ่งก็เป็นสาเหตุเด่นๆ ที่ทำให้เด็กเรียนเก่งฆ่าตัวตายมาแล้วหลายคน (ใช่รึเปล่า)
2. การแข่งขันก็จะยิ่งปรากฏให้เห็นได้ชัด เพราะ ถ้าเราสอบผ่าน แต่เพื่อนอีกคนนึงสอบผ่านเหมือนกัน แต่ดันได้คะแนนเยอะกว่าเรา ใจเราก็จะเริ่มคิดหาวิธีให้ตัวเองสอบได้คะแนนดีกว่าเพื่อนแล้ว เนี่ยแหละ ความทุกข์ความอยาก มันเกิดขึ้นที่ใจเราเป็นต้นเหตุทั้งนั้น
3. อาจจะทำให้เราประหม่าในเวลาสอบครั้งต่อไป เพราะใจเรามัวแต่คิดว่า “ยังไง เราก็สอบผ่าน” แล้วเราก็ขาดความกระตือรือร้นไปโดยปริยาย
4. การที่เราสอบผ่าน ขอให้ถามตัวเองดีๆว่า เราผ่านด้วยความสามารถของตัวเองรึเปล่า ถ้าคำตอบคือไม่ เราก็จะไม่ได้อะไรจากการสอบในแต่ละครั้งเลย

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551